พรรคก้าวไกล

รังสิมันต์โรม ห่วงหลังปิดหีบ

รังสิมันต์โรม

รังสิมันต์โรม ที่เป็นผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล บอกว่าสิ่งที่เป็นห่วงในตอนนี้ หลังปิดหีบเลือกตั้ง คือ กระบวนการนับคะแนน เรียกร้องไปถึงทางกกต.ให้ดูแลขั้นตอนให้เป็นไปอย่างโปร่งใส และจะต้องไม่มีไฟฟ้าดับระหว่างที่นับคะแนน เพื่อที่จะให้คะแนนที่ออกมานั้นสอดคล้องกับการมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทาง รังสิมันต์โรม ผู้ที่สมัครสส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล ก็มีการบอกอีกว่า ภาพรวมของบรรยากาศการมาใช้สิทธิเลือกตั้งสส. หากประเมินแล้วนับว่าน่าพอใจ เพราะประชาชนได้แสดงออกต่อการตื่นตัวออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นกระบวนการขั้นสุดท้าย และเป็นหัวใจต่อการเลือกตั้งก็คือ ขั้นตอนของการนับคะแนนเลือกตั้งนั้น ก็อยากให้คณะกรรมการเลือกตั้ง หรือทาง กกต. ดำเนินการให้ขั้นตอนในส่วนนี้ ให้เป็นไปด้วยความยุติธรรม ที่เป็นห่วงมากที่สุดคือหวังจะไม่เกิดอุบัติเหตุในระหว่างของขั้นตอนการนับคะแนน ลุกลามไปถึงขั้นไฟฟ้าดับ ระหว่างการนับ คะแนนเลือกตั้ง เช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอีกด้วย เครดิต : https://www.komchadluek.net

พรรคเพื่อไทย โล่งใจ ความชัดเจนของสังคม

พรรคเพื่อไทย โล่งใจ ความชัดเจนของสังคม

เนื่องจาก นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ที่ได้อยู่ในความชัดเจน ของจากผลการเลือกตั้งในเดือนพค.66 นี้ จะทำให้มีความชัดเจนในพรรคมากยิ่งขึ้น และถ้าหากพรรคนั้นได้ถูกเลือกให้เป็นพรรคลำดับที่ 1 นายกรัฐมนตรีเป็น พรรคเพื่อไทย ทางคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ที่เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้อยู่ในความรับรู้โดยตรงและย่อมเป็นความแจ่มชัดซึ่งสังคมรอคอยจากพรรคเพื่อไทย และถ้าถามว่าความชัดเจนนี้เกิดจากปัจจัยอะไรในทางการเมือง ก็อาจไม่ได้อยู่ที่ความเชื่อมั่นที่ว่าพรรคเพื่อไทยนั้นต้องการชัยชนะในการเลือกตั้งเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่นอย่างแน่นอน เนื่องจากความเชื่อมั่นนี้ก็เป็นความเชื่อมั่นโดยพื้นฐานปกติอยู่แล้ว จากทุกพรรคการเมืองรวมไปถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะว่าการเลือกตั้งเมื่อเดือน มค.ปีพ.ศ. 2544 เป็นต้นมานั้นชัยชนะเป็นของพรรคไทยรักไทย ความจริงของการเลือกตั้งก็อยู่ในมือของพรรคไทยรักไทยอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ไม่ว่าจะใช้ชื่อว่าพรรคพลังประชาชนหรือใช้ชื่อว่าพรรคเพื่อไทย แต่เรื่องความมั่นใจทาง คุณแพทองธาร ชินวัตร ก็มีการประกาศในท่ามกลางหัวหน้าและตัวแทนพรรคสำคัญในสมรภูมิทางการเมืองนั้นก็ได้มาจากความมั่นใจต่อความต้องการของสังคมที่มีความเริ่มมีความแจ่มชัด สุดท้ายทิศทางอันสะท้อนความต้องการของสังคมไทยว่ามีเป้าหมายอยู่ที่ไหน ก็ขอให้ประเมินจากกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทยที่ ร่วมกับความนิยมของพรรคก้าวไกลบ่งชี้ไปในทิศทางที่ต้องการเป็น การเปลี่ยน ให้ได้ บ่งบอกว่าไม่ตกลงรับกับความต้องการ แต่ไม่ว่าโดยกระบวนการของพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือกระบวนการ ก้าวข้าม ของพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ต่างหากคือจุดร่วมอย่างสำคัญ เครดิต : www.matichon.co.th, ไทยรัฐ